ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์
เรื่องของ "การละเมิดลิขสิทธิ์" เป็นเรื่องใกล้ตัวของเราทุก ๆ คน เราอาจจะกระทำผิดได้ด้วย "ความไม่รู้" แต่กฎหมายไม่สนใจความไม่รู้ของเรานะครับ
ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหนังสือ
ทำผลงานวิชาการ หรือแม้กระทั่งการเขียนบันทึกในรูปแบบ BLOG ในอินเทอร์เน็ต
เรามีความเสี่ยงที่จะทำผิด "กฎหมายลิขสิทธิ์" ได้กันทุกคน
ไม่ว่าจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ รู้อยู่แก่ใจ
บันทึกตอนนี้
ขอนำเสนอเรื่อง "ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์" ที่ตราไว้ในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2537
หลักการสำคัญที่จะไม่ถึอว่ากรณีต่าง
ๆ ที่เข้าละเมิดลิขสิทธิ์">ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2537 ซึ่งมีเงื่อนไข 2 ประการ
ได้แก่
ประการแรก การใช้งานลิขสิทธิ์นั้นต้องไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์
ประการที่สอง การใช้งานลิขสิทธิ์นั้นต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฏหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร
สำหรับข้อยกเว้นที่ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในแต่ละกรณีที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเขียนผลงานวิชาการ หรือรูปแบบอื่น ๆ
ได้แก่
(1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
(2) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง
หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท
(3) ติชม วิจารณ์
หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(5) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ
เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว
(6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน
เพื่อประโยชน์ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
(7) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน
หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษา
เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้
ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร
(8) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
(9) การกล่าว คัด ลอก เลียน
หรืออ้างอิงงานบางตอนตามสมควรจากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
โดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(10) การทำซ้ำโดยบรรณารักษ์ของห้องสมุด
ซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากการทำซ้ำนั้นมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร ดังต่อไปนี้
- การทำซ้ำเพื่อใช้ในห้องสมุดหรือให้แก่ห้องสมุดอื่น
- การทำซ้ำงานบางตอนตามสมควรให้แก่บุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ในการวิจัยหรือการศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น